วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ท่านั่งขับรถยนต์มีผลต่อความปลอดภัย




  การขับรถยนต์ให้ปลอดภัย นอกจากผู้ขับต้องมีความชำนาญแล้ว ท่าทางในการขับ ก็มีความสำคัญ เช่นกัน เพราะมีส่วนเพิ่ม หรือลดประสิทธิภาพในการควบคุมรถยนต์ 

การปรับตำแหน่งเบาะ  
 เบาะนั่งที่ดี ควรปรับได้อย่างน้อย จุด คือ  
   1.ระยะของเบาะนั่ง  
   2.มุมเอียงของพนักพิง 
   3.ระดับสูง-ต่ำของหมอนรองศีรษะ 

ส่วนการปรับระดับสูง-ต่ำของเบาะนั่ง  
   มุมเอียงของหมอนรองศีรษะและพนักพิง ช่วยให้ผู้ขับมีความสะดวกสบายมากขึ้น 

การปรับเบาะนั่ง ให้ได้ระยะที่เหมาะสม สำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดา 
   ทำได้โดย ใช้ฝ่าเท้าซ้ายเหยียบแป้นคลัตช์ให้สุด (อย่าใช้ปลายเท้าเหยียบคลัตช์)จากนั้นเลื่อนเบาะให้หัวเข่าซ้ายงอเล็กน้อย 

สำหรับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ซึ่งไม่มีแป้นคลัตช์  
   ให้ใช้เท้าซ้าย เหยียบลงบนแป้นพักเท้าหรือพื้นรถยนต์ และใช้ฝ่าเท้าขวาเหยียบแป้นเบรก จากนั้นเลื่อนเบาะให้หัวเข่าขวางอเล็กน้อย 

การปรับมุมเอียงของพนักพิง  
   ให้ใช้มือซ้าย-ขวาจับพวงมาลัย ที่ตำแหน่ง และ นาฬิกา หรือ 10 และ นาฬิกาและปรับตำแหน่งพนักพิงเอนไปด้านหลัง กระทั่งข้อศอกทั้ง ข้าง หย่อนเล็กน้อย ลองเลื่อนมือไปจับพวงมาลัยในตำแหน่ง 12 นาฬิกา แขนต้องเกือบเหยียดตึงโดยไม่ต้องโยกตัวขึ้นมา หรือแบบมือพาดลงไป วงพวงมาลัยต้องอยู่บริเวณข้อมือจึงจะเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการขับมากที่สุด 

หมอนรองศีรษะไม่ได้มีไว้ให้หนุนขณะขับ  
    แต่ช่วยลดอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ หากเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการถูกชนท้ายที่ศีรษะจะสะบัดไปด้านหลัง การปรับระดับของหมอนรองศีรษะที่เหมาะสม ควรปรับให้ขอบบนของหมอนรองศีรษะอยู่ระดับใบหูด้านบนถ้าหมอนรองศีรษะสามารถปรับระดับมุมเอียงได้ ควรปรับให้ใกล้ศีรษะมากที่สุด เพื่อลดการสะบัดของศีรษะเมื่อถูกชนท้าย 

การปรับตำแหน่งพวงมาลัย 
    รถยนต์ส่วนใหญ่ที่พวงมาลัยสามารถปรับได้ มักเป็นการปรับระดับสูง-ต่ำ ไม่ควรปรับไว้ต่ำเกินไปจนส่วนล่างของวงพวงมาลัยติดกับต้นขา 

รถยนต์ราคาแพงบางรุ่น พวงมาลัยสามารถปรับระยะใกล้-ไกลได้ด้วย  
    ไม่ควรปรับไว้ไกลเกินไปจนต้องเหยียดแขนตึง เพราะอาจเกิดความเมื่อยล้าและลดความฉับไวในการบังคับทิศทาง หรือใกล้เกินไป เพราะอาจได้รับอันตราย เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน 

การปรับมุมกระจกมองข้าง และกระจกมองหลัง 
   กระจกมองข้างซ้าย-ขวา ส่วนใหญ่สามารถปรับได้ ทิศทาง คือ บน-ล่าง และซ้าย-ขวา การปรับ ไม่ควรให้เห็นตัวถังด้านข้างมากเกินไปเพราะจะเป็นการลดมุมมองด้านข้าง และควรปรับให้เป็นแนวขนาน ไม่ก้มหรือเงยมากเกินไป  

ส่วนกระจกมองหลัง ควรปรับให้เห็นด้านหลังให้มากที่สุด  
    และเอียงไปเห็นพื้นที่ด้านซ้ายของรถยนต์ด้วย  
โดยเมื่อนั่งในท่าปกติแล้วมองกระจกมองหลัง ไม่ควรเห็นศีรษะของผู้ขับ 

ท่านั่ง 
   การปรับตำแหน่งเบาะนั่งที่เหมาะสมจะหมดความสำคัญ ถ้าผู้ขับนั่งในลักษณะที่ไม่ถูกต้อง ผู้ขับหลายคน ปรับเบาะได้ถูกต้องแล้ว แต่พยายามโยกตัวมาด้านหน้า เพื่อให้มองเห็นปลายของฝากระโปรงหน้า หรือวัยรุ่นที่ชอบปรับเบาะให้เอนมากๆ แล้วชะโงกตัวขึ้นมาโหนพวงมาลัยแผ่นหลังจึงไม่สัมผัสพนักพิงอย่างเต็มที่ ทำให้สูญเสียความฉับไว และแม่นยำในการควบคุมรถยนต์ เมื่อจะมองกระจกมองข้างและกระจกส่องหลัง ก็ต้องเบนแนวสายตามากขึ้น รวมทั้งเกิดความเมื่อยล้า เมื่อนั่งเป็นเวลานาน 

ที่ถูกต้อง ตลอดการขับ     แผ่นหลังต้องพิงพนักเต็มที่ แม้จะมองไม่เห็นปลายของฝากระโปรงหน้าก็ตามเพราะรถยนต์ยุคใหม่มักออกแบบฝากระโปรงหน้าให้ลาดเท เพื่อผลทางหลักอากาศพลศาสตร์ ชะโงกอย่างไรก็เห็นได้ยาก 

Cr. เดลินิวส์ 
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น