วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560



                 ใบปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานในช่วงฤดูฝน ทำให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางอย่างชัดเจน จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและเพื่อความปลอดภัย วันนี้ ฟอร์ท แทร็คกิ้ง ซีสเต็ม ขอแนะนำ การเลือกใช้และดูแลใบปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งานในช่วงฤดูฝน ดังนี้

การเลือกใช้ใบปัดน้ำฝน 
           ใช้ใบปัดน้ำฝนที่ผลิตจากวัสดุและเนื้อยางที่มีคุณภาพดี เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคงทน โครงของใบปัดน้ำฝนทำจากโลหะ เพื่อป้องกันการกระพือจากแรงลมในขณะขับรถด้วยความเร็วสูง และช่วยเพิ่มน้ำหนักในการรีดน้ำจากกระจก มีขนาดเหมาะสมกับมาตรฐานที่รถกำหนด

          หากใบปัดน้ำฝนมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้รัศมีในการปัดน้ำฝนน้อยลง ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง หากใบปัดน้ำฝนมีขนาดใหญ่มากไป ใบปัดจะเลยขอบกระจก ทำให้มีอายุการใช้งานสั้นลง

          ยางใบปัดน้ำฝนแนบสนิทกับกระบังลมหน้า-หลัง เลือกที่มีความยืดหยุ่นและมีขนาดพอดีกับก้านใบปัดน้ำฝน เนื้อยางมีคุณสมบัติพิเศษ ไม่เสื่อมสภาพเร็วเกินไป และคงทนต่อสภาพอากาศร้อน

วิธีสังเกตลักษณะของใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ
          - เนื้อยางแข็งกรอบและมีรอยฉีกขาด
          - กวาดน้ำบนกระจกไม่สะอาด รีดน้ำจากกระจกไม่หมด
          - กวาดแล้วมีรอยขุ่นมัวหรือละอองน้ำเป็นม่านบนกระจก
          - ยางปัดน้ำฝนมีอายุใช้งานมานานมากกว่า 1 ปี
          - มีเสียงดังและมีอาการกระตุกขณะใช้งาน ซึ่งเกิดจากการเสียดสีกันระหว่างใบปัดน้ำฝนกับกระจก

การดูแลใบปัดน้ำฝน 
          - จอดรถในที่ร่ม เพื่อป้องกันแสงแดด ทำให้ยางใบปัดน้ำฝนแข็งกรอบและขาดความยืดหยุ่น เพราะยางต้องแนบกับกระจกที่รับความร้อน
          - หมั่นตรวจสอบสภาพและทำความสะอาดยางใบปัดน้ำฝน โดยยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นและ
ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดตามแนวยาวของใบปัดน้ำฝน
          - ไม่ใช้ผงซักฟอกทำความสะอาดใบปัดน้ำฝน เพราะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วและสีรถได้รับความเสียหาย
          - ใช้น้ำยาเช็ดกระจกและเคลือบกระจกอยู่เสมอ จะทำให้กระจกสะอาดและใบปัดน้ำฝนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

          ทั้งนี้ การใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ นอกจากจะไม่สามารถกวาดน้ำบนกระจกได้สะอาดแล้ว ยังส่งผลให้กระจกหน้ารถเป็นรอย โดยเฉพาะการขับรถในช่วงที่ฝนตกหนัก ทำให้มีทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ



ที่มา : Kapook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น